การจ้างงานปี 63 น่าเป็นห่วง ปัจจัยกดดันเพียบ หวั่นบัณฑิต 3.4 แสนคนตกงาน

กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร นำโดยฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ์ได้มีการคาดเดาว่าสถานการณ์การจ้างงานในปี 63 จะย่ำแย่ลงกว่าปี 62 นี้ เป็นไปได้ว่ามาจากผลปัจจัยกดดันทำให้เกิดสถานการณ์ขึ้น ซึ่งมีการเปิดเผยไว้ในบทวิเคราะห์เรื่องสถานการณ์การจ้างงานไทย

ฝ่ายวิจัยฯ ระบุว่า ปัจจัยกดดันที่ทำให้เกิดสถานการณ์การจ้างงานในปี 63 จะย่ำแย่ลงกว่าปี 62 นี้ มาจาก

ภาคอุตสาหกรรมมีการจ้างงานลดลง ซึ่งในภาคเกษตรและภาคบริการก็ไม่สามารถเพิ่มการจ้างงานได้เหมือนก่อน ทำให้เกิดผลกระทบต่อแรงงานเป็นวงกว้างขยายไปจนถึงปี 63
ช่วงเศรษฐกิจขาลง การค้าโลกยังไม่ฟื้นตัว ทำให้สินค้ายังคงถูกสต๊อกอยู่เยอะ จึงเป็นปัจจัยกดดันให้ภาคการผลิตในครึ่งแรกของปี 63 ยังคงชะลอตัวจึงทำให้หลายองค์กรยังไม่เปิดรับสมัครงาน
ปัญหาเชิงโครงสร้าง อย่าง การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาทดแทนคนงาน การใช้สินค้าจากต่างประเทศแทนสินค้าที่ผลิตในประเทศผ่านการขยายตัวของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ แรงงานไทยมีความสามารถไม่ตรงความต้องการของตลาดแรงงาน รวมถึงผลกระทบของค่าเงินบาทแข็งตัว
การบริโภคในภาคเอกชนอาจเกิดปัจจัยฉุดรั้งจากการถูกเลิกจ้างและรายได้ที่ลดลง ทำให้การจ้างงานหดตัวร้อยละ 3-4 ในปี 63 การบริโภคภาคเอกชนก็อาจจะลดลงร้อยละ 0.2-0.3 หรือกกระทบมากถึงร้อยละ 0.15 ของอัตราการเติบโต (GDP)

นอกจากนี้ ภาคธุรกิจอาจหยุดการจ้างงานใหม่เพื่อควบคุมต้นทุน ทำให้ในช่วงกลางปี 63 บัณฑิตจบใหม่ที่พร้อมหางาน ราว 341,000 คน อาจประสบปัญหาในการหางานได้